“อว.แฟร์ – มหกรรมวิทย์” ปี 68 กระทรวง อว. เนรมิตพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์สร้างแรงบันดาลใจแห่งการเรียนรู้
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดงาน “มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ วิจัย และนวัตกรรม (อววน.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ” หรือ “อว.แฟร์ 2025 : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND” และงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2568” (NST Fair 2025) พร้อมมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2025 ให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย เพื่อเชิดชูเยาวชนผู้มีผลงานโดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์ โดยมี ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. นายวิเชียร สุขสร้อย เลขานุการ รมว.อว. ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย นางเทย์เออะ มาร์ที่เนอะ อ็อตมันน์ อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีน ญี่ปุ่น เดนมาร์ก และฝรั่งเศส และผู้บริหารระดับสูงกระทรวง อว. เข้าร่วม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ


นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบาย “สร้างปัญญา เปิดโอกาส สร้างอนาคตไทย” ให้เป็นรูปธรรมผ่าน 2 ภารกิจหลัก คือ การพัฒนากำลังคนอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ยกระดับวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนประเทศด้วยองค์ความรู้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการจัดงาน อว.แฟร์ 2025 : Creators of Tomorrow และงาน NST fair 2025 : Science in Action! For Sustainable Communities และแสดงให้เห็นถึงการนำนโยบายทั้ง 2 ด้าน มาสร้างเป็นเวทีที่มากกว่านิทรรศการและงานเสวนาวิชาการ แต่เป็นพื้นที่ที่จุดประกายให้คนไทยทุกช่วงวัยได้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์นำไปสู่การลงมือทำ พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชน นักวิจัย ผู้ประกอบการ และประชาชนทุกคนได้เริ่มสร้างอนาคตไทยด้วยพลังของทั้งศาสตร์และศิลป์ผสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็น ‘นวัตกรรม’ โดย อว. ได้ให้ความสำคัญในการเพิ่มศักยภาพของคนไทยผ่าน 3 นโยบายหลักประกอบด้วย ประการแรก: สร้างปัญญา ด้วยการเปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่เข้มข้นผ่านนิทรรศการ เทคโนโลยี และกิจกรรมที่บูรณาการทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อปลูกฝังความรู้ ความคิด และทักษะให้แก่เยาวชนและประชาชนทุกช่วงวัย ประการที่สอง: เปิดโอกาส ด้วยการเชื่อมโยงงานวิจัย เทคโนโลยี และทุนการศึกษาเพื่อให้ทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างเท่าเทียม ประการที่สาม: สร้างอนาคตไทย ด้วยการขับเคลื่อน Soft Power, Deep Tech และอุตสาหกรรมอนาคตผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐ มหาวิทยาลัย และผู้ประกอบการ เพื่อให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันเวทีโลก นโยบายทั้งหมด คือ การสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ การวิจัยและการสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงระหว่างห้องเรียน ห้องแล็บ ชุมชน และธุรกิจเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น AI, EV, Semiconductor, Smart Farming, เศรษฐกิจอวกาศ และ Soft Power ไทย
“นี่ไม่ใช่เพียงการจัดงาน แต่คือ การออกแบบประเทศไทยในเวอร์ชันที่ดีขึ้น ผ่านพลังของการคิดสร้างสรรค์ และลงมือทำ ขอเชิญชวนประชาชนทุกคน มาร่วมค้นหาแรงบันดาลใจ มาร่วม ‘คิดสร้างสรรค์’ และร่วม ‘สร้างอนาคตไทย’ ไปด้วยกัน” รมว.อว. กล่าว


ด้าน ศ.ดร. ศุภชัย กล่าวเสริมว่า สำหรับการจัดงาน อว.แฟร์ ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Creators of Tomorrow : คิดสร้างสรรค์ Kids คิดสร้างอนาคต” ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ตามนโยบายหลักของ อว. ที่มุ่งพัฒนาอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาประเทศ บนพื้นที่กว่า 23,000 ตารางเมตรของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งพลังสร้างสรรค์ ที่รวมไฮไลต์ 7 โซน ได้แก่ZONE A: INSPIRED ARENA จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชน, ZONE B: LEARNING ARCADE พื้นที่เรียนรู้ในรูปแบบเกม, ZONE C: INNOVATOR PLAYGROUND พื้นที่ปั้นนวัตกรรุ่นใหม่ เสริมพลังธุรกิจไทยสู่อนาคต, ZONE D: VALLEY OF GROWTH นวัตกรรมเพื่ออนาคตของธุรกิจไทย, ZONE E: LIVING DISTRICT นวัตกรรมเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต, ZONE F: ART & SCIENCE FOR FUTURE THAILAND วิทยาศาสตร์ที่ผสานกับพลังจินตนาการของมนุษย์, ZONE G: CRAFT MARKET ตลาดนวัตกรรมทั่วประเทศรวมสินค้ากว่า 20,000 รายการจาก 350 ร้านค้า
ภายใน 7 โซนยังมี 7 สิ่งมหัศจรรย์ ได้แก่ นิทรรศการเรือสำรวจขั้วโลก “Xue Long II” เรือตัดน้ำแข็งล้ำยุคจากจีนนักวิจัยไทยใช้สำรวจขั้วโลก, แว่น VR ยานยนต์ ทะลุมิติ สัมผัสโลกวิทย์ในฝันผ่านประสบการณ์เสมือนจริง, สนามสอบ TCAS เสมือนจริง เตรียมพร้อมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยการสอบจริง รู้ผลสอบทันที พร้อมเทคนิคการแก้โจทย์ข้อสอบ A-Level, บอร์ดเกมยักษ์ “Bangkok Road”เรียนรู้การจัดการเมืองผ่านเกม, ThaiWater App แอปพลิเคชันจัดการน้ำอัจฉริยะ ใช้งานจริงได้ทุกวัน, ชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อย “ริวกู” ชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อยของจริงจากอวกาศ จัดแสดงครั้งแรกในเอเชีย และ ห้องปฏิบัติการดาวเทียม เปิดโลกภารกิจอวกาศไทยสู่สากล
อีกทั้ง อว. ยังได้ระดมความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัด พร้อมทั้งผนึกกำลังกับ 8 ประเทศ และ 97 หน่วยงานจัดงาน “NST Fair 2025” หรือ มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Science in Action! For Sustainable Communities” บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสวิทยาศาสตร์แบบลงมือจริง คิดจริง สนุกจริง อาทิ นิทรรศการ Quantum Quest: ควอนตัมเปลี่ยนโลก, นิทรรศการ Brain Inside Out: เปิดโลกวิทยาศาสตร์แห่งสมองสุดอัศจรรย์, นิทรรศการ Mystery of Svalbard: คลังเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต, นิทรรศการ Little Inventor: ดินแดนนักประดิษฐ์ตัวน้อย, นิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานต่างประเทศ สถาบัน/สถานศึกษา และหน่วยงานเอกชน ขณะเดียวกัน ยังมีกิจกรรมวิทยาศาสตร์อีกมากมายให้เยาวชนได้ร่วมสนุกอีกด้วย



นอกจากนี้ ในพิธีเปิดงาน “อว.แฟร์ 2025” และ“NST Fair 2025” ได้มีการมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2025 โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเชิดชูเกียรติเยาวชนที่ได้ทำคุณประโยชน์และเป็นตัวอย่างอันดีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมทั้งเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจให้แก่ครูที่อุทิศตนอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนให้มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์
ผู้ที่สนใจ สามารถร่วมงาน “อว.แฟร์ 2025” และ “NST Fair 2025” ระหว่างวันที่ 9 – 17 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยงาน อว.แฟร์ 2025 จะจัดขึ้นที่ฮอลล์ 1-4 ชั้น G และงาน NST Fair 2025 จะจัดขึ้นที่ฮอลล์ 5-6 ชั้น LG สามารถเข้าร่วมงานได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.mhesifair.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/MHESIThailand