“แคมป์เด็กหัวการค้า” ปีที่ 11 ปลุกพลังสตาร์ทอัพรุ่นเยาว์ ตอกย้ำความสำเร็จโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่
กรุงเทพฯ – มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดโครงการ “แคมป์เด็กหัวการค้า” ครั้งที่ 11 ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ภายใต้แนวคิด “Business Sandbox” เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ทดลองพัฒนาแนวคิดธุรกิจในรูปแบบ Startup โดยได้รับความสนใจจากนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศกว่า 300 คน สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของเยาวชนไทยที่ต้องการก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่
อาจารย์วุทธินันท์ อ๊อกกังวาน รองอธิการบดีฝ่ายสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า “โครงการแคมป์เด็กหัวการค้าเป็นโครงการที่พัฒนาต่อยอดมาจากโครงการสร้างผู้ประกอบการรุ่นเล็ก (เด็กหัวการค้า) ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี โดยปีนี้เราได้ปรับรูปแบบให้เป็น Business Sandbox ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้สัมผัสประสบการณ์การสร้างธุรกิจแบบ Startup อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ การตอบรับจากนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 300 คน สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและความพร้อมของเยาวชนไทยที่ต้องการก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมที่เข้มข้นตลอด 2 วัน 1 คืน โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมในรูปแบบ Hackathon ที่กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมได้พัฒนาทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมและการแก้ปัญหาภายใต้เงื่อนไขเวลาที่จำกัด ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับการเป็นผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน”
ดร.รวิดา วิริยกิจจา คณบดีคณะบริหารธุรกิจ กล่าวถึงแนวโน้มการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการสร้างและบริหารธุรกิจว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยี AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้และเข้าใจ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัล จากการสังเกตผลงานของน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการ เห็นได้ชัดว่าเยาวชนรุ่นใหม่มีความเข้าใจและสามารถบูรณาการ AI เข้ากับแนวคิดธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะการนำ AI มาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเป็นผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล”
ด้าน ดร.ศุภสัณห์ ปรีดาวิภาต คณบดีวิทยาลัยผู้ประกอบการ แสดงความชื่นชมศักยภาพของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการว่า “ผมประทับใจความกล้าคิดกล้าทำของน้องๆ ที่นำเสนอไอเดียธุรกิจที่ไม่เพียงแต่สร้างผลกำไร แต่ยังคำนึงถึงการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมที่ชนะเลิศในปีนี้ ที่นำเสนอนวัตกรรมแปรงสีฟัน Bio Sensor ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการแก้ปัญหาสุขภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว นี่คือตัวอย่างที่ดีของการสร้างธุรกิจที่มี Social Impact ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ซึ่งเป็นแนวทางที่วิทยาลัยผู้ประกอบการของเราให้ความสำคัญและส่งเสริมมาโดยตลอด เชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้”
ไฮไลท์สำคัญของงานคือการแข่งขันนำเสนอไอเดียธุรกิจ ซึ่งทีม “หวานเจี๊ยบ” สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศด้วยนวัตกรรมแปรงสีฟัน Bio Sensor นายเลิศฟ้า สุขารมณ์ CEO ของทีม เปิดเผยว่า “แนวคิดของเราเริ่มจากการระดมสมองเพื่อพัฒนาแปรงสีฟันที่สามารถตรวจจับเชื้อโรคและแบคทีเรียในช่องปากได้ด้วย Bio Sensor พร้อมส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังแอปพลิเคชัน นวัตกรรมนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถต่อยอดเป็นข้อมูลสำหรับทันตแพทย์ในการวางแผนการรักษาได้”
ทีมหวานเจี๊ยบ ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน ได้แก่ นายเลิศฟ้า สุขารมณ์ (ใบหยก) CEO จากโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม นายภูวิชัย วิทิตวรโชติ (ซีเกมส์) โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นายพอเพียง ดวงจินดา (ปัง) โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี นางสาวศิรินันท์ ทะวีชัย (ฝน) โรงเรียนนารีวุฒิ และนายธนธร บุ้งทอง (แม็ก) โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม โดยทีมได้รับรางวัลพร้อมโอกาสในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจกับผู้เชี่ยวชาญ และนักลงทุน
โครงการแคมป์เด็กหัวการค้าปีที่ 11 นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม 2567 กิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษโดยนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เวิร์คช็อปฝึกทักษะการเป็นนักธุรกิจ กรณีศึกษาธุรกิจ กิจกรรมระดมสมอง และการ Pitching ไอเดียธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Networking ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญในวงการธุรกิจจากคณาจารย์ผู้เชียวชาญจากคณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รวมถึง Mentor จากกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าไทย มาร่วมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แลคตาซอย จำกัด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท เยเนอรัล แคนดี้ จำกัด
“ความสำเร็จของโครงการในปีนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนไทย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง และพัฒนาผู้ประกอบการที่มีคุณภาพให้กับประเทศต่อไป” อาจารย์วุทธินันท์ กล่าวทิ้งท้าย